Framework Management Tool Box :
Re-engineering
ด้าน Organizing
ด้าน Organizing
Michael Hammer and James
Champy
แนวความคิดของ Adam Smith
ไม่เหมาะสมกับสภาพธุรกิจปัจจุบัน ด้วยสภาวการณ์ต่าง ๆ ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
จากปัจจัยผันแปร 3 ประการคือ
1. ความสำคัญของลูกค้า
(Customer)
2. สภาพการแข่งขัน
(Competition)
3. การเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
(Change)
Re-engineering หมายถึง
การพิจารณาหลักการพื้นฐานและการคิดแบบขึ้นใหม่
ชนิดถอนรากถอนโคนของกระบวนการธุรกิจเพื่อบรรลุซึ่งผลลัพธ์ของการปรับปรุงอันยิ่งใหญ่
โดยใช้มาตรวัดผลการปฏิบัติงานที่ทันสมัยและสำคัญที่สุด ซึ่งได้แก่ ต้นทุน คุณภาพ
การบริการและความรวดเร็ว
องค์ประกอบ มีปัจจัย 4
ประการ
1. พื้นฐาน
(Fundamental)
2. ถอนรากถอนโคน
(Radical)
3. ยิ่งใหญ่ (Dramatic)
4. กระบวนการ
(Processes)
ผู้ที่มีส่วนร่วมในการทำ
Re-engineering
1. ผู้นำ (Leader)
2. เจ้าของกระบวนการ (Process
Owner)
3. ทีม Re-engineering
(Re-engineering Team)
4. คณะกรรมการผลักดัน (Steering
Committee)
5. หัวเรือใหญ่ในการทำ
Re-engineering (Re-engineering Czar)
ขั้นตอนการทำ
Re-engineering
1. Re-think
2. Re-design
3. Re-tool
4. Re-train
ข้อดีของการทำ
Re-engineering
-
ทำให้บุคลากรของหน่วยงานสามารถทำงานได้หลาย ๆ
ช่วงการบังคับบัญชาสั้นลง
- ด้านอำนาจและความรับผิดชอบ
ทำให้บุคลากรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจมากขึ้น
- สายการบังคับบัญชา
มีการเปลี่ยนมือจากคน ๆ เดียวมาเป็นคนหลายคน
-
สามารถลดขั้นตอนในการปฏิบัติงานลงได้
-
กรทำงานภายในองค์การจะเกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้้น
-
ก่อให้เกิดการขยายงานอย่างเป็นระบบ
-
ก่อให้เกิดการประหยัดในการดำเนินการทั้งต้นทุนทางตรงและต้นทุนทางอ้อม
-
มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญอันจะนำไปสู่ให้ลูกค้าพึงพอใจมากขึ้น
-
เป็นการปรับเปลี่ยนแนวคิดใหม่ทั้งหมดในการทำงาน (Holistic approach)
ข้อมูล :
นายเผด็จ เย็นวิชัย
รวบรวม :
นางสาวพรรณเพ็ญ สิทธิพัฒนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น